10 งานเทศกาลของประเทศฝรั่งเศส
1. เทศกาลเอพิพานี (Epiphanie)
นับเป็นหนึ่งในเทศกาลทางศาสนาคริสต์ที่สำคัญมากที่สุด จัดขึ้นในวันทุกๆวันที่ 6 เดือนมกราคม โดยจะมีการนิยมทานขนม Galette des Rois หรือที่รู้จักกันในชื่อ ขนมพระราชา ของหวานท้องถิ่นที่มีลักษณะเป็นแป้งพัฟซ้อนทับๆกันคล้ายกับครัวซองค์แต่มีความละมุนกว่า มีไส้ทั้งอัลมอนด์แบบดั้งเดิม ผลไม้อบแห้งและ ช็อคโกแลต ด้านในจะมีตุ๊กตาตัวจิ๋วซ่อนไว้ ปกติจะขายคู่มากับมงกุฎกระดาษสีทอง เรียกได้ว่าถ้าใครได้มาเยือนฝรั่งเศสช่วงเดือนมกราคมก็จะเห็นร้านขนมต่างๆขายเจ้าขนมชนิดนี้แทบทุกร้าน
2. งานคาร์นิวัลแห่งเมืองนีซ (Carnival de Nice)
งานคาร์นิวัลสุดยิ่งใหญ่อันดับต้นๆของโลกที่ไม่แพ้บราซิลหรืออิตาลี จัดขึ้นที่เมืองนีซในช่วงเดือนกุมพาพันธ์ของทุกๆปี ระยะเวลาการจัดติดต่อกันถึง 2 สัปดาห์ โดยมีการจัดติดต่อกันเป็นเวลาเนิ่นนานมีจุดเริ่มต้นจากการจัดงานเพื่อเฉลิมฉลองของท่านเคาท์แห่งปรอแวนส์ (Count of Provence ) เมื่อประมาณปี ค.ศ. 1294 มีขบวนแห่สุดยิ่งใหญ่อลังการที่ตกแต่งอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ เต็มอิ่มไปด้วยบรรยากาศความสนุกสนานแบบสุดเหวี่ยง การันตีความฮอทปรอทแตกด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 1,000,000 คนต่อปี แล้วยังมีทีท่าจะจะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ
3. เทศกาลวันกินเครป (La Chandeleur)
เดิมทีเป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับเทพเจ้าในศาสนาคริสต์ จัดขึ้น วันที่ 2 กุมภาพันธ์ของทุกปี สมัยก่อนจะมีการเดินขบวนโดยมีการถือคบเพลิงและสวดมนตร์ไปพร้อมๆกัน แต่ปัจจุบันไม่มีพิธีการแบบนั้นอีกแล้ว คงเหลือไว้แต่ความเชื่อเรื่องการทำเครปด้วยกรรมวิธีการทำแบบ coup de poêle ภายในวันนี้เพื่อความโชคดีที่จะเกิดขึ้นตลอดทั้งปี ซึ่งภายในวันนี้จะมีการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการทำเครปสไตล์ฝรั่งเศสให้เห็นตามร้านค้าและศูนย์การค้าทั่วทั้งฝรั่งเศส และคนจะนิยมทานเครปกันมากในช่วงเทศกาลนี้
4. เทศกาลอีสเตอร์ (Pâques)
เป็นช่วงวันหยุดสำหรับชาวศาสนาคริสต์นิกาย จะมีขึ้นในเดือนเมษายนของทุกๆปี ซึ่งถือเป็นช่วงที่บรรยากาศโรแมนติกมากๆ ดอกไม้ออกดอกพลิใบแข่งกันผลิบาน ในช่วงนี้ตามร้านขนมหวานหรือ supermarket ต่างๆจะเต็มไปด้วยช็อคโกแลตหลากหลายรูปทรงที่นิยมมากที่สุดเห็นจะเป็นรูปไข่ที่แต่งแต้มด้วยสีสันสดใสและรูปกระต่ายตัวน้อยสุดมุ้งมิ้ง แต่ควรเช็กเรื่องเวลาเปิดทำการของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆให้ดีเพราะส่วนมากจะปิดเร็วหรือบางแห่งก็อาจไม่เปิดในช่วงนี้
5. งานแข่งขันเทนนิสประจำปี (French Tennis Open)
การแข่งขันเทนนิสคอร์ตดินรายการแกรนด์สแลมที่คอเทนนิสตัวจริงไม่ควรพลาด จัดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนมิถุนายน ณ สนาม Roland Garros ในกรุงปารีส ที่จะได้ชื่นชมนักเทนนิสชื่อดังระดับโลกที่มาร่วมเข้าแข่งขันแบบสดๆ ที่สนุกกว่าดูทางจอทีวีเป็นไหนๆ พร้อมซึมซับบรรยากาศความลุ้นระทึกไปในทุกแมตการแข่งขัน
6. เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (Le Festival de Cannes)
เทศกาลภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนพฤษภาคมที่เมืองคานส์ ถือได้ว่าเป็นเทศกาลภาพยนตร์ที่เก่าแก่และมีอิทธิพลต่อวงการหนังทั่วโลกมากที่สุดงานหนึ่ง โดยนอกจากจะได้ยลโฉมเหล่านักแสดงชื่อดังของทั้ง Holly woods และนักแสดงชื่อดังที่เข้าชิงรางวัลที่เดินเฉิดฉายมาบนพรหมแดง แล้วยังได้มีโอกาสได้ชมภาพยนตร์สั้นนอกกระแสจากนานาประเทศอีกด้วย
7. เทศกาลสู้วัวกระทิง (Ferias de Nimes)
งานเทศกาลสู้วัวกระทิงสุดยิ่งใหญ่ที่เมืองนิมส์ จัดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมเป็นประจำทุกๆปี วัตถุประสงค์หลักๆเพื่อเป็นการยกย่องถึงความกล้าหาญของเหล่าวีรบุรุษนักสู้วัว ซึ่งการสู้วัวกระทิงนั้นจะจัดขึ้นในสนามกีฬาโบราณที่มีอัฒจันทร์สไตล์โรมันจุคนได้เป็นจำนวนมาก อารมณ์เสมือนหลุดเข้ามายังยุคโรมันเลยก็ว่าได้ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีกิจกรรมแสดงดนตรีพร้อมแสงสีเสียงเต็มพิกัดที่สร้างความครื้นเครงไปทั่วทุกท้องถนน
8. เทศกาลลาเวนเดอร์ที่โพรวองซ์ (Fête de la lavande)
เทศกาลที่จะได้ชมความงามของดอกลาเวนเดอร์บานสะพรั่งเต็มทุ่งจัดขึ้นเป็นประจำปีทุกปีช่วงเดือนกรกฎาคมในแคว้นโพรวองซ์ นอกจากความงดงามของดอกลาเวนเดอร์สีม่วงจัดๆแล้วนั้น ในแต่ละเมืองของแถบนี้ยังจะมีกิจกรรมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การแสดงพื้นเมืองของคนท้องถิ่น การสาธิตขั้นตอนการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากดอกลาเวนเดอร์ พร้อมเลือกชม เลือกชิม เลือกชอบสินค้า จากลาเวนเดอร์อีกมากมาย
9. งานเฉลิมฉลองแห่งชาติ (La Fête Nationale)
วันที่ระลึกที่มีความสำคัญต่อประวัติศสาสตร์ของฝรั่งเศสหรือที่รู้จักกันในชื่อ วันบัสตีย์ (Bastille Day)จัดขึ้นในวันที่ 14 กรกฎาคมของทุกปี ช่วงนี้จะเต็มไปด้วยความคึกคักของริ้วขบวนพาเรดที่ประดับประดาด้วยสีสันสดสวย ท่ามกลางการร้องเล่นเต้นรำตามทั่วทั้งบริเวณอย่างสนุกสนาน ตามท้องถนนถูกประดับประดาไปด้วยธงตรีกอลอร์ แถมมีการจุดพลุไฟช่วงกลางคืนแบบตระการตาให้ได้ชมกัน
10. เทศกาลวันคริตส์มาส (Noël)
เทศกาลเฉลิมฉลองวันคริตส์ เริ่มมีการจัดกิจกรรมต่างๆตั้งแต่คืนวันที่ 24 ไปจนถึง วันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี โดยในจะมีบรรยากาศที่คึกครื้นของวันคริสมาสตร์ทั้งร้านค้า และสถานที่ต่างๆต่างมีการประดับประดาอย่างสวยงาม มีต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ประดับไฟ บรรยากาศการจับจ่ายเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมาก อีกทั้งยังมีตลาดคริสต์มาสแบบยุโรปแท้ๆให้ได้เดินเพลินๆพร้อมซื้อของกิน ของใช้น่ารักๆอีกเพียบ ท่ามกลางบรรยากาศที่ถือได้ว่าโรแมนติกสุดๆ โดยจะมีอาหารหลายๆอย่างจะมีให้ลองชิมกันเฉพาะช่วงคริสต์มาส อย่าง ทาร์ทีแฟลตต์ (Tartiflette) คล้ายๆกราแตง และ เค้กขอนไม้ (Buche de Noel)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น